วัดประสิทธิผลโดยรวมเครื่องจักร (OEE) คือเครื่องมือสำคัญในการประเมินความพร้อม ประสิทธิภาพ และคุณภาพของกระบวนการผลิต เพิ่มกำไร ลด Downtime
เพราะในการบริหารและจัดการ ระบบการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การที่จะวัดว่าโรงงานเรามีการผลิตที่ได้ดีแค่ไหน? ซึ่งคำว่าดีในการผลิตคืออะไร ผลิตได้เยอะ งานซ่อมน้อย ของได้คุณภาพ
เราจะใช้ตัวแปรอะไรบ่งบอกว่า ดี หรือ ไม่ดี ?
ซึ่งหลายโรงงานจะตอบคำถามนั้น ด้วยการใช้ตัวแปรที่นิยมใช้ในสากลนั้นคือ “OEE” หรือ “การวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร”
OEE คืออะไร?
OEE หรือ Overall Equipment Effectiveness หากเราแปลตรงๆตัวนั้นคือ “การวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร” โดยจุดเริ่มต้นของ OEE ถือเป็นเป้าหมายในระบบ TPM (Total Productive Maintenance) ที่กำหนดโดยทาง คุณ Seiichi Nakajima ในปี 1928 เพื่อพัฒนาคุณภาพในการผลิตอย่างต่อเนื่องในแต่ละกิจกรรมในโรงงานอุตสาหกรรม
โดย OEE จะเป็นการบอก ประสิทธิผล หรือ ความสามารถในการผลิตของโรงงาน หรือหน่วยการผลิตโดยองค์รวม โดยหากมีการบอกว่า OEE 100% จะเป็นการบอกว่า โรงงานอุตสาหกรรมมีประสิทธิผลในการผลิตที่ดีมาก ไม่มีข้อผิดพลาดทั้งในแง่มุม ความพร้อมใช้งาน ความเร็วในการผลิต และคุณภาพของสินค้า (แต่โดย bench marking ตามมาตราฐานสากลจะอยู่ที่ประมาณ 85%)
โดยความสัมพันธ์คือ
OEE = Availability x Performance x Quality
หากแสดงเป็นกราฟจะเห็นได้ว่า การสูญเสียที่เกิดขึ้นในตัวแปรๆต่างๆ จะทำให้ค่า OEE ลดลง ครับ
ส่วนประกอบของ OEE
ในการวัด OEE จากสมการด้านบนจะประกอบ 3 ส่วนหลัก คือ
1. Availability หรือ สมรรถนะความพร้อมของเครื่องจักรโดยจะเทียบตามแผนในการผลิตของหน่วยการผลิตนั้นๆ
หากไม่สามารถผลิตได้ หรือ สูญเสียความสามารถในการผลิตจะเรียกว่า “availability losses”
หรือสามารถคำนวนได้จาก
Availability = Operating Time / Scheduled time
Availability = สมรรถนะความพร้อมของเครื่องจักร
Operating Time = เวลาในการเดินเครื่องจักรผลิตในโรงงาน
Scheduled Time = เวลาที่ถูกวางแผนในการเดินเครื่องจักรผลิตในโรงงาน
2. Performance หรือ ประสิทธิภาพในการผลิต อาจจะเรียกว่า อัตราการผลิต (Process rate) เป็นตัวแปรที่มองว่า หน่วยผลิตสามารถผลิตได้เท่าไหร่เมื่อเทียบกับความเร็วในการผลิตที่ออกแบบไว้
ในกรณีที่ผลิตได้ช้าจากการออกแบบไว้ เราจะเรียกว่า “Speed losses”
หรือสามารถคำนวนได้จาก
Performance = Actual speed / Design speed
Performance = ประสิทธิภาพในการผลิต
Actual speed = เวลาที่่ใช้จริงในการผลิต
Design speed = เวลาที่่ออกแบบในการผลิต
3. Quality หรือ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ เป็นการบ่งบอกว่าสินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพไหม โดยกำหนดจากระบบ QA/QC ในโรงงาน โดยเป็นการบอกปริมาณสินค้าที่ได้คุณภาพมีเปอร์เซ็นเท่าไหร่จากปริมาณเท่าหมด
ส่วนปริมาณสินค้าที่เสียไปจะเรียกว่า “Quality losses”
Quality = (Units produced – defective units) / (Units produced)
Quality = คุณภาพของผลิตภัณฑ์
Units produced = ปริมาณสินค้สที่ได้คุณภาพ
Defective units = ปริมาณสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ
Units produce = ปริมาณสินค้าทั้งหมด
ประโยชน์ของระบบ OEE ในโรงงาน
ในอดีตการความสามรถในการผลิตในโรงงาน มีการหาวิธีการกันหลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีข้อมูลทั้งในฝั่งผลิต ฝั่งซ่อม ฝั่งบัญชี รวมถึงดรรชนี KPI เต็มไปหมด แต่ไม่มีตัวไหนเลยที่สามารถบ่งบอกในเชิงองค์รวมได้ หรือนำไปใช้ปรับปรุงการเพิ่มผลผลิตได้จริง ๆ
โดยการวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร หรือการใช้ OEE เป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่งที่นอกจากทำให้รู้ประสิทธิผลของเครื่องจักรแล้วยังรู้ถึงสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งในภาพใหญ่ คือ
- สามารถแยกประเภทการสูญเสียและรายละเอียดของสาเหตุนั้น
- ทำให้สามารถที่จะปรับปรุง
- ลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ
เปรียบเสมือนเราขับรถแล้วมีเกจเตือนเราอยู่ตลอดเวลาว่า ตอนนี้การผลิตในโรงงานดีหรือแย่ยังไง แล้วแย่ไปแย่ที่ตรงไหน ก็สามารถทำให้ทางโรงงานสามารถโฟกัสในการปรับปรุงและพัฒนาได้ตรงจุดจริงๆครับผม
การเพิ่มประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร
ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่า OEE ลดลงแบบมีนัยวำคัญเลยส่วนมาก จะเกิดจากสภาพของเครื่องจักรที่ไม่สมบรูณ์ และในกรณีแย่ที่สุด คือจำเป็นหยุดการผลิตเพื่อซ่อมแซมเครื่องจักรครับ หลังจากนั้นแน่นอนเลยครับว่าค่า OEE ของเพื่อนๆจะ”ดิ่งลงเหวอย่างแน่นอน”
วิธีที่จะป้องกันเหตุการเหล่านี้เริ่มได้จากการปรับปรุงระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุง จากเก่า ให้เป็น ระบบ CMMS
เพราะระบบ CMMS จะเก็บบันทึกประวัติการเสื่อมสภาพ ประวัติคุณลักษณะของการสึกหรอ หรืออาการเสียที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ไว้ใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนงานซ่อมที่เหมาะสมกับแต่ละชนิดเครื่องจักรไป เพื่อไม่ให้เครื่องจักรมีการเสียหายบ่อยๆ หรือการใช้งานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพส่งส่งผลต่อค่า OEE โดยตรงครับ
ซึ่งหากเพื่อนๆสนใจทดลองใช้โปรแกรม CMMS ซึ่งสมัครใช้ฟรี!!
>>>>> http://bit.ly/ArticleCMMS <<<<<

================================================================
แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ Factorium แชร์ นะครับ
คำถามาส่วนใหญ่เกี่ยวกับ OEE
- OEE คืออะไร?
- OEE (Overall Equipment Effectiveness) คือดัชนีที่ใช้วัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร โดยพิจารณาจาก 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ความพร้อมใช้งาน (Availability), ประสิทธิภาพการทำงาน (Performance) และ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality) เพื่อประเมินว่ากระบวนการผลิตมีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากเพียงใด
- ทำไมต้องวัด OEE?
- การวัด OEE ช่วยให้โรงงานหรือผู้ประกอบการรู้ว่าเครื่องจักรทำงานได้ดีแค่ไหน ลดของเสีย ลดเวลาหยุดเครื่อง และช่วยวางแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
- ค่าคะแนน OEE ที่ดีควรอยู่ที่เท่าไร?
- โดยทั่วไป ค่า OEE ที่ถือว่าดีคือ 85% ขึ้นไป ซึ่งแสดงว่าเครื่องจักรมีประสิทธิผลสูง หากต่ำกว่านี้อาจบ่งชี้ถึงปัญหาในกระบวนการผลิตที่ควรปรับปรุง
- OEE ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
- Availability (ความพร้อมใช้งาน): เวลาทำงานจริงเทียบกับเวลาที่ควรจะทำงาน
- Performance (ประสิทธิภาพ): ความเร็วของการผลิตเทียบกับความเร็วที่ควรเป็น
- Quality (คุณภาพ): จำนวนของดีเทียบกับจำนวนทั้งหมดที่ผลิตได้
- ความแตกต่างระหว่าง OEE กับ KPI ด้านอื่น ๆ คืออะไร?
- OEE เป็นดัชนีเฉพาะด้านเครื่องจักรและกระบวนการผลิต ขณะที่ KPI อื่นอาจวัดในด้านคุณภาพการทำงาน บุคลากร ต้นทุน หรือการจัดส่ง OEE จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวัดผลการดำเนินงานโดยรวม
- ระบบ CMMS ช่วยในการวัด OEE ได้อย่างไร?
- ระบบ CMMS (Computerized Maintenance Management System) ช่วยบันทึกเวลาใช้งานเครื่องจักร เวลาหยุดเครื่อง รายงานของเสีย ฯลฯ ทำให้สามารถนำข้อมูลมาใช้คำนวณ OEE ได้แบบเรียลไทม์
- ปรับปรุง OEE ควรเริ่มจากจุดใด?
- ควรเริ่มจากการวิเคราะห์ว่าองค์ประกอบใดใน 3 อย่าง (Availability, Performance, Quality) ต่ำที่สุด แล้วใช้วิธี เช่น TPM, Kaizen, Lean Manufacturing หรือ Predictive Maintenance เข้ามาช่วย
- OEE ใช้กับอุตสาหกรรมใดได้บ้าง?
- OEE สามารถใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมที่มีการใช้เครื่องจักรในการผลิต เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, เคมีภัณฑ์ และอื่น ๆ
Website: https://factorium.tech/
Facebook: https://www.facebook.com/386654832130754/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCAHWs01GOZJ2_8gehIsdGpw
Factorium CMMS: https://factorium.tech/product-cmms/
Cr. บทความจากนายช่างมาแชร์

