ภาวะโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว จากนี้ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะโลกเดือด
ภาวะโลกเดือด คืออะไร?
ภาวะโลกเดือด คือ สถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความรุนแรงมากขึ้น โลกกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของสภาพอากาศ ซึ่งในเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ได้มีความร้อนมากที่สุดในรอบ 120,000 ปี อุณหภูมิเฉลี่ยแถบขั้วโลกเหนือสูงที่สุดในรอบ 170 ปี และมีการละลายของน้ำแข็งที่รวดเร็ว
ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หลังจากที่ UN ได้ออกมาเตือน ภาวะโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว และกำลังย่างก้าวเข้าสู่ภาวะโลกเดือด โดยเลขาธิการสหประชาชาติ ได้พยายามเน้นย้ำความร่วมมือของโลกในการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก โดยปัจจัยที่ทำให้ปี 2565 มีอุณหภูมิสูงกว่าอดีต 1,000-10,000 ปี มาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ
- 1) การกระทำของมนุษย์จากการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.2 องศาเซลเซียส
- 2) ปรากฎการณ์ El Nino ที่รุนแรง ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีก 0.2 – 0.3 องศาเซลเซียส
- 3) เป็นช่วงเวลาการปลดปล่อยพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.05 องศาเซลเซียส
- 4) การระเบิดของภูเขาไฟ Tonga-Hunga ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.035 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตามมันได้สร้างความรุนแรง และความเสียหายบนโลกใบนี้ เช่นเหตุการณ์คลื่นความร้อนในเอเชีย อเมริกา ยุโรป และแอฟริกา น้ำท่วมใหญ่ในอินเดีย เกาหลีใต้ จีน ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
ภาวะโลกเดือดส่งผลกระทบอะไรต่อเราบ้าง?
ถ้าเอาที่เห็นผลทันตาและเห็นผลชัดเจนคงหนีไม่พ้นผลกระทบที่ส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์อย่าง อาการฮีทสโตรก (ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น) และปัญหาทางสุขภาพอื่นๆตามมาที่สำคัญภาวะโลกเดือดมียังผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง อุณหภูมิที่สูงขึ้น สามารถทำให้เกิดภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว, พายุ, น้ำท่วม, และภัยแล้งที่มีผลกระทบต่อการเกษตร เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมสามารถเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมภายในองค์กรเราเอง โดยสร้างองค์กร “ไร้กระดาษ” หรือ ลดการใช้ปริมาณกระดาษในองค์กร รวมถึงการตระหนักถึงเรื่อง Paperless ที่ยิ่งต้องให้สำคัญ
ลดใช้กระดาษ ลดปริมาณขยะ ลดการตัดต้นไม้ และการใช้พลังงานในการผลิตกระดาษนี้ให้น้อยลงได้ ดังนี้
- 1) ใช้เทคโนโลยีและสื่ออื่นๆ เพื่อลดการใช้กระดาษ เช่น การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แทนการพิมพ์เอกสารที่ไม่จำเป็น การใช้อีเมลแทนการใช้กระดาษในการส่งเอกสาร หรือการใช้แพลตฟอร์มการทำงานออนไลน์สำหรับการจัดการงานต่างๆ เพราะ การเปลี่ยนจากกระดาษมาสู่ระบบดิจิทัล ถือเป็นกระบวนการหนึ่งที่หลายองค์กรต้องปรับเปลี่ยนเพื่อลดการใช้กระดาษในชีวิตประจำวัน ย้ายการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลไปสู่รูปแบบที่เป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น
- 2) ส่งเสริมนโยบายการใช้กระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร โดยการส่งเสริมการใช้กระดาษรีไซเคิลหรือการลดใช้กระดาษในการดำเนินงานประจำวัน
- 3) ฝึกอบรมพนักงานเพื่อเสริมสร้างความตระหนักในการใช้กระดาษอย่างมีสติและมีวิจารณญาณ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของการลดใช้กระดาษ
เพราะ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น ลดปริมาณการใช้กระดาษภายในองค์กรนั้น แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่ก็ที่สำคัญต่อโลกมาก เพราะสามารถช่วยลดผลกระทบอันมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อโลกของเราได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบ Cloud Storage ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้การเปลี่ยนจากการใช้งานเอกสารแบบกระดาษสู่รูปแบบ Paperless ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถเก็บเอกสารและข้อมูลทั้งหมดไว้บน Cloud ซึ่งสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ต โดยทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และมีการสำรองข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย สรุปได้ว่าการใช้ Cloud Storage จึง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การทำงานเป็นแบบ Paperless ได้มีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์และการจัดเก็บเอกสารที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจได้อีกด้วย
นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้แอปพลิเคชันและโปรแกรมต่างๆ เพื่อการจัดการงานเอกสารโดยที่ไม่ต้องใช้กระดาษสักใบ เช่น การใช้แพลตฟอร์มการทำงานออนไลน์ เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถช่วยลดการใช้กระดาษได้มากๆ และเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีในการรักษาสิ่งแวดล้อม
คุณเองก็สามารถเปลี่ยนระบบซ่อมบำรุงบนกระดาษ สู่ระบบซ่อมบำรุงบนดิจิทัลได้
เปลี่ยนได้ด้วย ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ ที่มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยในการลดการใช้กระดาษอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถของ FACTORIUM CMMS ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานและบริหารจัดการการซ่อมบำรุงองค์กรได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้การทำงานบนช่องทางออนไลน์เพื่อบันทึกและจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง การตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์ และตารางการบำรุงรักษาโดยไม่ต้องใช้กระดาษเป็นองค์ประกอบหลัก ทำให้สามารถลดการใช้กระดาษลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญเรายังสามารถทำงานบนอุปกรณ์สื่อสารออนไลน์ได้ทันที ชัดเจนแล้วว่าการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการเครื่องจักรและข้อมูลจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความยุ่งยากในการดำเนินงานขององค์กรได้อย่างยั่งยืน
ไม่ใช่แค่ FACTORIUM CMMS ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ที่เปลี่ยน แต่.. ยังมีอีกหลายองค์กร และอุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้กระดาษมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรกรรม อุตสาหกรรมกล่องบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
รวมถึงฝ่ายวิศวกรกว่า 300+ บริษัทท และช่างสายงานซ่อมบำรุง ที่ได้เปลี่ยนการทำงานบนกระดาษ มาสู่ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ เพราะงานซ่อมบำรุงกับงานนวัตกรรมเป็นงานที่ต่อเนื่องกัน จะต้องมีการ Improve ทำให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะเราเชื่อว่า ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 นั้น ทุกการผลิตของภาคอุตสาหกรรม สามารถลดความสูญเสียให้กลายเป็น “Zero Breakdown” ได้ง่ายๆ พร้อมกับการลดใช้ปริมาณกระดาษจำนวนมหาศาลลงได้ทันที เพียงแค่คุณลองเปิดใจ หาตัวช่วย พร้อม Package ราคาเหมาะที่สมต่อการใช้งาน
“คุณอาจไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยซ้ำ ช่วยในความสะดวกสบายในการจัดการงานมีเวลา บริหารงานส่วนอื่นให้ชีวิตดีขึ้นทำงานผ่านมือถือเพียงเครื่องเดียวด้วยระบบที่ทันสมัยใช้งานง่ายข้ามขีดจำกัดเพื่อสิ่งที่ดีกว่า”
FACTORIUM CMMS ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ ดีกว่าการใช้กระดาษ เพราะ?
- 1) FACTORIUM CMMS ช่วยลดการใช้กระดาษที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลและการดำเนินงานซ่อมบำรุง ทำให้ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ที่ใช้ในการผลิตกระดาษ
- 2) FACTORIUM CMMS ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อกระดาษและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกระดาษ เช่น การพิมพ์เอกสาร และการจัดเก็บข้อมูล
- 3) FACTORUM CMMS ช่วยให้การทำงานดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้กระดาษในการบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
- 4) การใช้ FACTORIUM CMMS ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลการซ่อมบำรุงและสถานะของอุปกรณ์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ต้องพกเอกสารที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
- 5) การใช้ FACTORIUM CMMS ช่วยลดการผลิตขยะและปริมาณการใช้กระดาษที่ไม่จำเป็น ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น
เรามีหน้าที่ช่วยให้องค์กรและอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการซ่อมบำรุงออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันและช่องทางออนไลน์บนเครื่องมือต่างๆได้อย่างหลากหลาย รวมถึงความปลอดภัยทางด้านข้อมูล ที่จะถูกจัดเก็บและบันทึกไว้ได้อย่างปลอดภัย โดยที่ไม่ต้องกลัวกระดาษสูญหาย หรือสภาวะ Human Error ที่อาจจะเกิดขึ้นกับพนักงานภายในโรงงานได้ เปลี่ยน เพื่อรักษ์โลก เปลี่ยนเพื่อรักษาข้อมูลให้อยู่ครบถ้วนด้วย FACTORIUM CMMS
1 เดือนสุดท้ายของปี หากพี่ๆสนใจใช้งาน ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์จาก FACTORIUM CMMS สามารถสมัครการใช้งานได้ที่ : >>>คลิก<<<<หลังจากนั้นรบกวนพี่ๆ กดเลือกที่บทความออนไลน์นะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนพัฒนาฝีมือที่ดีต่อไป ขอบพระคุณค่า
Website: https://factorium.tech/
Facebook: https://www.facebook.com/factorium.tech
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCAHWs01GOZJ2_8gehIsdGpw