วิธีเช็ครถง่ายๆ ก่อนออกเดินทาง

เช็ครถง่ายๆ ระบบจัดการงานซ่อมบำรุง CMMS แอพซ่อมบำรุง โปรแกรมซ่อมบำรุง ซ่อมโรงงาน ซ่อมเครื่องจักร แผน PM Computerized Maintenance Management System

เราสามารถเช็คสภาพรถยนต์ หยุดทุกจุดอันตรายก่อนเดินทางไกลด้วยระบบ eMaintenance ได้ เพราะการเดินทางส่วนใหญ่มักจะใช้รถยนต์เป็นหลัก หากอยากให้การเดินทางไกลปลอดภัย ราบรื่น ไม่มีปัญหารถเสียกลางทาง ควรเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ

ยิ่งรถยนต์ของเรามีการใช้งานอยู่ทุกวัน เครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ย่อมเสื่อมสภาพตามการเวลา ซึ่งบางอย่างอาจทำให้รถเสีย และอาจเกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถ ใช้ถนนได้ 

ดูให้ดี! ใช้งานมาทั้งปี สภาพรถยนต์เรามีอาการเสียเหล่านี้ไหม ?

อาการรถยนต์ ระบบจัดการงานซ่อมบำรุง CMMS แอพซ่อมบำรุง โปรแกรมซ่อมบำรุง ซ่อมโรงงาน ซ่อมเครื่องจักร แผน PM Computerized Maintenance Management System
เช็คสภาพรถยนต์ให้สม่ำเสมอด้วย ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ หรือ eMaintenance

สตาร์ทติดยากอาการเสียแบบทั่วไปของรถที่ทุกคนมักเจอ หากรถมีอายุประมาณ 2-3 ปี อาจเกิดจากการที่แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ หรือระบบจ่ายเชื้อเพลิงมีปัญหา หากลองทำการสตาร์ทดูหลายครั้งแล้วรถยังไม่ติด ควรพารถเข้าศูนย์เพื่อตรวจหาอาการที่แท้จริง

การเลือกใช้ศูนย์บริการที่มีการแจ้งเตือนอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากศูนย์บริการไหนมี ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ หรือ eMaintenance ที่ดี จะยิ่งช่วยเพิ่มความตื่นตัวและเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการในการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คสภาพรถยนต์ที่ดีอยู่เสมอ

ช่วงล่างแข็งกระด้าง – หากมีเสียงคร่ำครวญจากช่วงล่าง ควรเริ่มจากการตรวจสอบว่ามีน้ำมันหยดลงมาที่พื้นหรือไม่ นั่นอาจเป็นสัญญาณโช๊ครั่ว รวมทั้งตรวจเช็คสภาพยางด้วยว่ามีความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลงหรือไม่

เช็คสภาพรถยนต์ก่อนพัง

มีเสียงดังแปลกกว่าปกติ – ขั้นตอนนี้ต้องลองฟังดูว่าได้ยินเสียงมาจากส่วนไหนของรถยนต์ ทั้งเสียงผ้าเบรคและสายพานรถ หากดังแปลกจากปกติที่เคยเป็น อาจกำลังเกิดการเสื่อมสภาพตามการใช้งานอยู่ก็เป็นได้

เครื่องสั่นจนดับ – ขับรถไปเรื่อยๆแล้วมีอาการสั่นหงึ่กหงั่กจนเครื่องดับ ลองเร่งเครื่องแล้วก็ยังไม่ดีขึ้นสักที ลักษณะแบบนี้ควรนำรถยนต์เข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คสภาพรถยน์และเครื่องยนต์ก่อนออกเดินทาง

อาการเสียของรถยนต์เช็คให้ดีก่อนเดินทาง

รถมีควันสีขาว – อาการไม่สู้ดีของเครื่องยนต์ เกิดการเผาไหม้ที่ผิดพลาด ทำให้น้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ที่มักเกิดจากการเสื่อมสภาพ และชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เกิดความเสียหาย แม้รถจะยังใช้งานได้อยู่เป็นปกติ แต่ไม่ควรปล่อยไว้นานจนเกินไป

ได้กลิ่นเหม็นไหม้ – สัญญาณอันตรายที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์และระบบการทำงานของรถ หากได้กลิ่นควรหยุดขับรถทันที ฝืนขับต่อไปอาจเกิดความเสียหายร้ายแรงได้ โดยกลิ่นไหม้เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผ้าเบรกไหม้ สายพานไหม้ ท่อไอเสียแตก ระบบไฟฟ้าภายในรถขัดข้อง

ศูนย์ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ช่วยเตรียมความพร้อมให้รถยนต์ได้อย่างไร ?

ประเทศไทยเรานั้นมีอุตสาหกรรมการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้บริการอยู่มากมายหลายบริษัท และส่วนใหญ่ได้รับรองมาตรฐานจากองค์กรความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

โดยในช่วงนี้การท่องเที่ยวเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความประสงค์ในการตรวจสอบก็เพิ่มขึ้น ศูนย์บริการตรวจเช็ครถยนต์ยิ่งต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับรถยนต์ที่จะหลั่งไหลเข้ามาตรวจเช็คสภาพเป็นจำนวนมาก

ดีกว่าไหม ? หากมีตัวช่วยและเพื่อนคู่คิดในการทำงานที่ช่วยลดความผิดพลาดในเรื่องการตรวจสอบเครื่องยนต์ หรือแจ้งเตือนการซ่อมในระยะเวลาที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้รถยนต์ ด้วยแอปซ่อมบำรุง FACTORIUM CMMS ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ หรือ eMaintenance ที่สามารถทำงานผ่านมือถือ พร้อมฟังก์ชันครบครัน ทดลองใช้งานได้ที่ https://factorium.tech/  ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย!

อย่าปล่อยให้การเดินทางสะดุด 7 จุดที่ควรตรวจสอบกับศูนย์บริการรถยนต์ก่อนขับรถทางไกล

7 จุดที่ควรตรวจสอบ

จุดที่ 1 ตรวจเช็คแบตเตอรี่ – แบตเตอรี่มีหน้าที่ป้อนกระแสไฟให้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับรถยนต์ 

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 40,000 กิโลเมตร โดยประมาณ ขึ้นอยู่ที่การใช้งานของแต่ละบุคคล ซึ่งการตรวจสอบและดูแล แบตเตอรี่ควรนำรถยนต์เข้าไปเช็คสภาพแบตเตอรี่ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร

รถสตาร์ทติดยากสัญญาณของแบตเตอรี่เสื่อม อาการแบบนี้ต้องรีบนำรถไปตรวจสภาพที่ศูนย์บริการ รวดเร็วยิ่งขึ้นทุกการแจ้งเตือนด้วยแอปพลิเคชันระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ FACTORIUM CMMS ถึงเวลาต้องซ่อมตามอายุการใช้งานแจ้งเตือนแบบ Realtime แม้คุณจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตาม

จุดที่ 2 ล้อและยางรถยนต์ – เป็นอีกจุดที่สำคัญมากๆ เพราะอุบัติเหตุส่วนหนึ่งบนท้องถนน เกิดจากยางระเบิดขณะขับขี่ ปัจจัยจากการสึกหรอขึ้นอยู่กับ ภูมิอากาศ สภาพถนน สไตล์กับขับขี่ของผู้ใช้รถ โดยตัวชี้วัดที่ชัดเจนสุดคือาการสึกหรอและความลึกของดอกยางรถยนต์

การตรวจสอบและดูแลยางรถยนต์ บวม รั่วซึม เสื่อมสภาพ ควรตรวจเช็คยางเดือนละ 1 – 2 ครั้ง พร้อมทั้งตั้งศูนย์และถ่วงล้อทุก 10,000 กิโลเมตร

หากระยะมากกว่า 20,000 – 30,000 กม. ควรพารถตรวจสอบสภาพเข้าศูนย์

จุดที่ 3 เช็คช่วงล่าง – โช๊ค ไม่ดี ขับขี่ไม่นิ่มนวล ควรตรวจเช็คคราบน้ำมันบริเวณแกนโช๊คว่ามีน้ำมันหยดและรั่วหรือไม่ หากมีให้รีบนำเข้าศูนย์ตรวจสอบสภาพรถยนต์ เพราะโช๊คมีผลต่อการทรงตัวของรถขณะขับขี่

อายุการใช้งานของโช๊คจะอยู่ที่ 80,000 กิโลเมตรโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและควรนำโช๊คมาตรวจสอบทุกๆ 20,000 กิโลเมตร

ทุกๆการแจ้งเตือน 20,000 กิโลเมตร ผู้ให้บริการสามารถใช้โปรแกรมระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ CMMS หรือระบบ eMaintenanc ร่วมกับการทำงานได้  เพราะมีระบบจัดการสต็อคอะไหล่กรณีที่ต้องมีการเปลี่ยนซ่อม และแจ้งเตือนทุกๆการซ่อมผ่านมือถือให้กับผู้ใช้บริการอย่างทันท่วงที

จุดที่ 4 เช็คระบบเบรค – ปกติเบรคจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 48,000 – 56,000 กิโลเมตร แตกต่างกันไปตามลักษณะรถยนต์และการใช้งานของผู้ขับขี่ 

ทั้งนี้การขับขี่ในสภาพจราจรที่แน่นหนา อาจเหยียบเบรคบ่อยต้องหมั่นคอยตรวจเช็คความหนาของผ้าเบรค หากมีความหนาน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร ควรนำรถเข้าตรวจสภาพผ้าเบรคทันที

ควรพารถเข้าศูนย์เดือนละ 1-2 ครั้ง

จุดที่ 5 เช็คระบบไฟสัญญาณและไฟส่องสว่าง – มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เพราะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ และบอกทิศทางกับรถยนต์คันอื่นๆ

อายุการใช้งานของไฟสัญญาณและไฟส่องสว่างจะอยู่ที่ 2,000 – 2,500 ชั่วโมง โดยประมาณ ควรตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

ทั้งนี้ระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ FACTORIUM CMMS หรือ eMaintenance ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกการใช้งาน สามารถตั้งค่าการตรวจสอบได้ตามระยะเวลาตามกำหนดได้ตั้งแต่ 7 วัน 1 เดือน 3 เดือน หรือ 6 เดือน 

จุดที่ 6 น้ำมันเครื่อง – หากพบว่าน้ำมันเครื่องเป็นสีดำ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทันที เพราะอาจส่งผลต่อการหล่อลื่นและระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ 

โดยอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องจะอยู่ที่ 5,000 – 10,000 กิโลเมตรโดยประมาณ ตามมาตรฐานของน้ำมันเครื่องที่ใช้ ผู้ใช้รถยนต์ควรตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ ทุก 1-2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

การตรวจเช็คสภาพรถยนต์บ่อยๆจะช่วยถนอมเครื่องยนต์

จุดที่ 7 เช็คหม้อน้ำ ท่อยาง และระบบหล่อเย็น – ความร้อนสะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน หากระบบระบายความร้อนมีปัญหา อาจทำให้เครื่องยนต์น็อคได้  การตรวจสอบดูแลสารหล่อลื่นและของเหลวต่างๆ ควรนำรถเข้าตรวจเช็คสภาพ สารหล่อลื่นและของเหลวต่างๆ ทุก 6 – 12 เดือน จากช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ะไรบ้าง ? ที่รถยนต์ของคุณควรเช็คทุก 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน

สิ่งที่ควรเช็คทุก 1 เดือน
1. ระดับน้ำมัน 
2. ท่อ
3. ความดันลมยาง 
4. น้ำหล่อเย็น
5. ยางรถยนต์

สิ่งที่ควรเช็คทุก 3 เดือ
1. น้ำมันหรือตัวกรอง
2. น้ำยาล้างกระจกหน้ารถ 
3. น้ำมันเกียร์
4. หลอดไฟ

สิ่งที่ควรเช็คทุก 6 เดือน
1. ใบปัดน้ำฝน
2. แตร
3. เบรค
4. ยางอะไหล่
5. โช๊ค

การดูแลบำรุงรักษารถจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากที่คุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด วันนี้คุณได้ดูแลรถของคุณเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองแล้วหรือยัง ?

ให้ทุกการแจ้งเตือนเป็นเรื่องง่าย เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก ด้วยระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ FACTORIUM CMMS ระบบบริหารและจัดการงานซ่อมบำรุงผ่านโทรศัพท์มือถือ ช่วยแจ้งซ่อมทุกการ Breakdown ของเครื่องยนต์ให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตรงตามระยะเวลาที่ต้องการ “ระบบเดียวเอาอยู่ทุกงานซ่อม”

โปรแกรมซ่อมบำรุง Factorium CMMS

โปรแกรม CMMS (computerized maintenance management system) หรือ E-Maintenance คือ งานระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงแบบออนไลน์ที่นำระบบซอฟต์แวร์มาพัฒนาเพื่อให้สามารถเข้าถึงเครื่องจักร/เครื่องมือ อุปกรณ์การใช้งานต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องมือจัดการ ควบคุม วัดผล และจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบโดย E-Maintenance เหมาะสำหรับทุกภาคอุตสาหกรรม

โปรแกรมซ่อมบำรุง Factorium CMMS นี้ได้พัฒนาระบบ E-Maintenance และ CMMS ซึ่งเราได้ออกแบบเพื่อเป็นแอปพลิเคชันการแจ้งซ่อม ในงานซ่อมบำรุงเครื่องจักร งานซ่อมแซมอาคาร สำนักงานที่ Factorium ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้มากขึ้นถึง 20%  พร้อมกับฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกให้กับงานของคุณ โดยมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนแบบ realtime

คลิก!เพื่อทดลองใช้งานฟรี 3 เดือน

Website: https://factorium.tech/
Facebook: https://www.facebook.com/factorium.tech
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCAHWs01GOZJ2_8gehIsdGpw